
ผีเปรต ตามตำนานผีไทย เป็นผีที่มีลักษณะท่าทางและรูปร่างที่สูงโย่งยาวเท่าต้นตาล คอยาว ผมยาว โดยผีเปรตหรือเปรตานั้นมีสีผิวเป็นสีดำ รูปร่างผอมโซ มีลักษณะท้องที่ใหญ่โต มีมือที่ขนาดความใหญ่เท่าใบตาล ปากเล็กเท่ากับรูเข็ม ด้วยความที่มีรูปากเท่ากับรูเข็ม นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เปรตมีความหิวอยู่ตลอดเวลาเพราะไม่สามารถกินอะไรได้นั่นเอง พวกเปรตจึงชอบที่จะปรากฏตัวในงานบุญใหญ่ เป็นการมาขอส่วนบุญกุศลจากผู้คนที่เข้ามาทำบุญ พวกมันจะสะสมผลบุญกุศลให้กับตัวเอง ผลบุญเหล่านั้นก็จะทำให้พวกมันได้ไปเกิดในภพภูมิใหม่ที่ดีกว่าเดิม ไม่ต้องทุกข์ทรมานอย่างที่เป็นอยู่
ประวัติผีร้าย ความเป็นมาของ ผีเปรต

ตาม ตำนานผีไทย เปรตจะอยู่ในภพภูมิที่แยกจากภพภูมิของอสูรกายหรือผีเพราะมีกรรมที่หนักกว่า พวกมันมีรูปร่างที่น่าเกลียดน่ากลัว ต้องทนทุกข์อย่างน่าเวทนาจนกว่าจะชดใช้กรรมที่ตัวเองได้สร้างมาจนหมด ภพภูมิของเปรตถือเป็นภพภูมิที่เอาไว้สำหรับการลงโทษคนที่ทำบาป ภพภูมิของเปรตหรือเปรตานั้นถือเป็นภพภูมิอันดับที่สอง เป็นภพภูมิที่ทำการลงโทษคนบาปได้อย่างทรมานได้มากที่สุดรองจากนรก ความทุกข์ความทรมานในภพภูมินี้คือความทุกข์ทรมานทางร่างกาย ใครที่ตกลงไปในภพภูมิดังกล่าวจะถูกทำร้ายอย่างไม่มีเวลาให้ได้หยุดพัก ความทรมานที่จะได้รับไม่แตกต่างอะไรจากสัตว์นรกแต่มีผ่อนปรนบ้างในบางครั้ง ขอยกตัวอย่างเช่นเปรตที่มีรูปากเท่ารูเข็มสามารถหาของกินได้ด้วยตนเอง ถึงแม้จะมีปากที่เล็กเท่ารูเข็มแต่ก็พอกินข้าววประทังชีวิตตัวเองไปได้ ยังสามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ แต่สำหรับสัตว์นรกพวกมันจะถูกลงโทษอย่างทารุณตลอดเวลาไม่มีหยุดพัก ไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะได้ออกไปไหนมาไหน ต้องอยู่ในนรกจนกว่าจะชดใช้กรรมทั้งหมดเสร็จสิ้น
ผีเปรตก็มีหลายประเภท

ผีเปรตหรือเปรตานั้นใน ตำนานผีไทย แล้วเป็นผี ที่เรียกได้ว่าน่ากลัวเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ โดยเปรตนั้นจะมีทั้งหมด 12 ประเภท
1.วันตาสาเปรต
2.กุณปขาทาเปรต
3.คูถขาทาเปรต
4.อัคคิชาลมุขาเปรต
5.สุจิมุขาเปรต
6.ตัณหาชิตาเปรต
7.นิชฌามักกาเปรต
8.สัพพังคาเปรต
9.ปัพพตังคาเปรต
10. อชครเปรต
11.เวมานิกเปรต
2.มหิทธิกาเปรต
เปรตแต่ละประเภทจะมีกรรมบางอย่างที่แตกต่างกัน กรรมส่วนใหญ่ของการได้เกิดเป็นเปรตนั้นมักจะเกิดจากกรรมที่ตอนยังเป็นมนุษย์นั้นเต็มไปด้วยความโลภ ความเห็นแก่ตัว พวกมันจึงกลายมาเป็นบทเรียนให้เราทำความดีละเว้นความชั่ว